ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของหัวใจ
วิธีออกกำลังกายเพื่อบรรเทาอาการของโรคหัวใจ
-ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนว่าเราสามารถออกกำลังกายแบบไหนได้บ้าง มีคำแนะนำ หรือคำเตือนอะไรก่อนการออกกำลังกายหรือไม่-ชวนคนรู้จักมาออกกำลังกายด้วย หรือออกกำลังกายภายใต้การดูแลของครูฝึก หรือเทรนเนอร์ เพราะหากมีอาการอะไรเกิดขึ้น จะได้มีคนอยู่ช่วยได้ทันท่วงที และอย่าลืมแจ้งผู้เกี่ยวข้องรอบตัวด้วยว่าคุณเป็นโรคหัวใจ
-ก่อนเริ่มออกกำลังกาย ควรวอร์มร่างกายด้วยการทำท่ากายบริหารง่ายๆ ช้าๆ สลับท่าไปเรื่อยๆ ขยับทั้งขา แขน ข้อเท้า ข้อมือ หัวไหล่ คอ เอว ราว 5-10 นาที
-การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เป็นการเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นถึงระดับที่มีชีพจร 60-80% อย่างน้อย 20 นาที
-การยกน้ำหนัก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เลือกน้ำหนักที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป โดยยกดัมเบล ขวดใส่น้ำ หรือใช้อุปกรณ์ในฟิตเนสก็ได้ โดยออกกำลังทั้งในส่วนของต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ข้างเอว ข้างสะโพก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแต่ละคนไม่เท่ากัน ให้ลองทำเป็นเซ็ตๆ เซ็ตละ 10 ครั้ง ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น สลับเป็นส่วนๆ ไป อย่าหักโหม หากมีอาการหน้ามืด เจ็บหน้าอก วิงเวียนศีรษะ ชีพจรเต้นรัวและแรงเกินไป หรือปวดกล้ามเนื้อให้หยุด แล้วหาที่นั่งพักทันที
-กายบริหาร หรือโยคะ เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย การออกกำลังกายช้าๆ แบบกายบริหารช้าๆ หรือโยคะ เหมาะกับผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างช้าๆ กล้ามเนื้อไม่ฉีกขาด หรือเกิดอาการบาดเจ็บมากเหมือนการยกน้ำหนัก แต่อาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้เหมือนกันในระยะแรกๆ หากทำอย่างเป็นประจำ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจะค่อยๆ หายไป
-เดินเร็ว หรือวิ่งเหยาะๆ วันละ 1-3 ชั่วโมง อย่าลืมเลือกรองเท้าที่รองรับการกระแทกได้ดีด้วย
-เทนนิส ว่ายน้ำ ช่วยให้แขน และขาได้ใช้กล้ามเนื้อได้อย่างเต็มที่ กล้ามเนื้อหัวใจได้ทำงานเพื่อสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และทำให้การเคลื่อนไหวของผู้ป่วยดีขึ้น
-รำกระบอง เป็นวิธีที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณกระดูกสันหลังได้ทำงานมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้นด้วย
-หลังการออกกำลังกาย อย่าลืมคูลดาวน์ยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้ออีกครั้งด้วยการทำท่ากายบริหารช้าๆ เบาๆ 5-10 นาที
หากมีอายุน้อยกว่า 40 ปี ไม่มีปัจจัยเสี่ยงหรือความผิดปกติ เช่น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอกหรือเป็นโรคหัวใจ สามารถออกกำลังกายแบบไม่หักโหมได้ทันที แต่หากมีความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกาย
ขอบคุณ https://www.sanook.com/health/13417/ Jurairat N.